สร้างรายได้หลักล้านผ่าน IQ Option

วันอาทิตย์ที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2556

หลวงพ่อสงฆ์

หลวงพ่อสงฆ์
วัดเจ้าฟ้าศาลาลอย จังหวัดชุมพร
หลวงพ่อสงฆ์ วัดศาลาลอย,เหรียญหลวงพ่อสงฆ์

    ชุมพร เป็นเมืองเ่ก่าแก่แต่สมัยโบราณเมืองหนึ่งของภาคใต้ ตำนานพระธาตุเมืองนครศรีธรรมราช  พ.ศ. 1098  กล่าวว่าเมืองชุมพรเป็นเมืองหนึ่งในเมืองสิบสองนักษัตรของเมืองนครศรีธรรมราช โดยถือตราแพะ (มะแม) เป็นตราสัญลักษณ์ ประจำเมือง

    พ.ศ.1832 อาณาจักรสุโขทัย แ่ผ่ขยายอำนาจลงมาในแหลมมาลายู มุ่งเข้าตีเมืองศรีธรรมราช ทัพเมืองชุมพรได้ยกสกัดไว้แต่สู้ไม่ได้จึงถูกเผาเมืองและชาวเมืองเป็นจำนวนมากถูกจับตัวไปเป็นเชลย

   พ.ศ.2328  ต้นกรุงรัตนโกสินทร์ช่วงของสงครามเก้าทัพ พม่ายกทัพเขามาตีเมืองระนองและเมืองกระบุรีได้แล้วก็เลยเข้ามาตีเมืองชุมพร โดยยกทับเข้ามาทางบ้านท่าข้ามชาวเมืองออกรบกับพม่าแต่สู้ไม่ได้จึงพากันหลบหนีเข้าไปอยู่ตามป่าเขา พม่าได้พักทัพที่ท่าวังดินแดน ตกค่ำเอาใบตะรังตังช้าง(ต้นไม้ขนาดเล็ก ใบมีพิษถูกผิวหนังทำให้ปวดแสบปวดร้อน) มาปูนอนและเอากิ่งแห้งมาสุมไฟเกิดอาการปวดแสบปวดร้อนพากันหนีลงน้ำ พิษกลับเพิ่มเป็นทวีรูณและเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก จึงพูดกันว่า บ้านนี้อยู่ไม่ได้ เสือก็ร้าย ใบไม้ก็กินคน  หาดท่าดินแดงจึงได้ชื่อว่า  หาดพม่าตาย  ปัจจุบันชาวบ้านเรียกกันว่า  หาดหนองหอย 

   จังหวัดมีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ คู่บ้านคู่เมืององค์หนึ่ง ชาวบ้านเรียกกันว่าพ่อปู่หลักเมือง

  พ่อปู่หลักเมืองประดิษฐานในถ้ำรับร่อที่เขาพระตำบลท่าข้าม อำเภอท่าแซะ จังหวัดชุึมพร เหนือพระเศียรพ่อปู่หลักเมืองมีภาพเขียนเป็นรูปฤาษีอยู่บนเพดานหิน ที่ภาพเขียนนี้มีปริศนาลายแทงบอกไว้ว่า

   " เดินเข้าสามศอก เดินออกสามวา อวยทานมื้อหน้า หัวก๊กหน้าปู่"

    ด้วยปริศนาลายแทงนี้ทำให้มีคนเข้าใจว่าภายใต้พ่อปู่หังเมืองมีสมบัติฝังอยู่ จึงได้มาแอบขุดเจาะใต้อาสนะแต่ขุดไม่เข้าคงทิ้งหิ้นไว้เกลื่อนกลาดตามพื้นถ้ำ


   ใกล้ๆกับถ้ำรับร่อมีถ้ำอ้ายเตย์ อ้ายเตย์เป็นรูปเขียนทับรอยสลักบนก้อนหินในท่านอนแบบใีหไสยาสน์ หันศรีษะไปทางปากถ้ำด้านตะวันตก กล่าวกันว่าอ้ายเตย์เป็นชาวบ้านแถบนั้น ต่อมาได้ทำความผิดคือถูกหาว่ากินคน จึงถูกทำโทษด้วย การล่ามโซ่ขังไว้ในถ้ำจนตายและมีปริศนาลายแทงกล่าวว่า

  "อ้ายเตย์ อ้ายเตย์ เอาลูกใส่แปลเอาตีนคาในน้ำมันสองขวด ค่อยนวดค่อยไปผู้ใดแก้ได้อยู่ใต้อ้ายเตย์"

ใต้รูปอ้ายเตย์จึงมีรอยขุดเป็นหลุมลึกเนื่องจากมีคนมาขุดเพื่อหาทรัพย์สมบัติเ่นกัน

    การที่เชื่อกันว่าวีทรัพย์สมบัติฝังซ่อนอยู่ในถ้ำเหล่านี้ก็กล่าวกันว่าเพราะสมัยก่อนเมืองชุมพรมีศึกบ่อยครั้ง ชาวบ้านจึงพากันเอาทรัพยสมบัติมาฝังซ่อนไว้ตามถ้ำต่างๆ แล้วบอกเป็นปริศนาลายแทงให้คิด อีกกระแสก็มีตำนานเล่าว่าบริเวณนี้ในสมัยโบราณเป็นทะเลเรียกว่าทะเลเซี๊ย ปัจจุบันกลายเป็นดินแต่ก็ยังมีชื่อ  "คลองทะเลเซี๊ย" อยู่

   เล่ากันว่าในสมัยโบราณทะเลเซี๊ยเป็นคลองเชื่อมระหว่างมหาสมุทรแปซิฟิกและและมหาสมุทรอินเดีย โดยไม่ต้องอ้อมแหลมมลายูมีกษัตริย์อินเดีย 2 องค์ แล่นเรือสำเภาจากทะเลจีนจะกลับสู่ประเทศอินเดียพร้อมด้วยทรัพย์สมบัติมหาศาล เมื่อเรือสำเภาแล่นผ่านช่องแคบทะเลเซี๊ยะก็ถูกพายุพัดติดต่อกัน 3 วัน 3 คืน เรือสำเภาจึงต้องจอดหลบพายุอยู่ที่เกาะซึ่งเป็นที่ตั้งของเขาพระในปัจจุบันกษัตริย์อินเดียทั้งสองจึงจึงขึ้นไปสำรวยสถานที่พบเกาะแล้วขนสมบัติไปเก็บซ่อนไว้บนเขาพระ พร้อมกับสร้างพระพุทธรูปปางต่างๆ ขึ้น แล้วทำปริศนาลายแทงไว้ในถ้ำ  เมื่อพายุสงบกษัตริย์ทั้งสองก็แ่ล่นเรือต่อไปออกสู่มหาสมุทรอินเดีย เือสำเภาเกิดไปเกยหินโสโครกจมในทะเล เรือสำเภาทั้งสองลำเลยกลายเป็นหินอยู่เคียงคู่กันระหว่างแดนต่อแดนขอไทยและพม่า เรียกว่าหินตะเภา

   พระเกจิอาจารย์ของจ้งหวัดชุมพรในอดีตเมื่อหลายสิบปีก่อนก็มีอยู่หลายท่านด้วยกัน เช่น หลวงพ่อเลื่อม วัดสามแก้ว หลวงพ่อเปียก วัดนาสร้าง หลวงพ่อทอง วัดดอนสะท้อน หลวงพ่อจีด วัดถ้ำเขาพลู และหลวงพ่อจอน วัดดอนรวบ เป็นต้น โดยเฉพาะท่านหลันนั้น กรมหลวงชุมพร  ทรงนับถือเป็นอาจารย์เลยทีเดียวแต่ถ้าเป็ฯยุคปี พ.ศ. 2500 ที่ดังและคนชุมพรนับถือมากที่สุดก็คือ หลวงพ่อสงฆ์ วัดเจ้าฟ้าศาลาลอย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น