สร้างรายได้หลักล้านผ่าน IQ Option

วันอาทิตย์ที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2556

เหรียญนั่งพานหลวงพ่อยิด วัดหนองจอก


เหรียญนั่งพานหลวงพ่อยิด

วัดหนองจอก ประจวบคีรีขันธ์
เหรียญหลวงพ่อยิด

 เหรียญหลวงพ่อยิด
เหรียญนั่งพานหลวงพ่อยิด
วัดหนองจอก ประจวบคีรีขันธ์




เหรียญนั่งพาน หลวงพ่อยิด วัดหนองจอก รุ่นสรงน้ำ ปี 37 เนื้อทองแดง 


เหรียญนั่งพานหลวงพ่อยิด วัดหนองจอก รุ่นสรงน้ำ 



เหรียญมหาโชคลาภ หลังยันต์ แอ่งกระทะ หลวงพ่อยิด วัดหนองจอก 


เหรียญหลวงพ่อยิด วัดหนองจอก รุ่นสร้างวิหาร ปี36


หลวงพ่อยิด วัดหนองจอก > เหรียญสีหราชหลวงพ่อยิด วัดหนองจอก


เหรียญรวงข้าวใหญ่หลวงพ่อยิด วัดหนองจอก จ.ประจวบคีรีขันธ์ ปี 2534


เหรียญพิชิตชัยหลังครั่ง หลวงพ่อยิด วัดหนองจอก ประจวบคีรีขันธ์



พญาเต่าเรือนรุ่นแรกหลวงพ่อยิด พ.ศ.๒๕๓๕ "เต่าเรือนเฝ้าทรัพย์กันภัย


เหรียญเจริญพร หลวงพ่อยิด วัดหนองจอก ประจวบฯ --เนื้อเงิน



      ในบรรดา พระเกจิอาจารย์ผู้เปี่ยมล้นวิชาอาคมขลัง พระครูนิยุตธรรมสุนทร หรือ "หลวงพ่อยิด จันทสุวัณโน" แห่งวัดหนองจอก ต.ดอนยายหนู อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ก็เป็ฯอีกหนึ่งพระเถระผู้เยี่ยมยอด ผู้ที่นิยมพระเครื่องน้อยคนนักที่จะไม่รู้จักชื่อ หลวงพ่อยิด แห่งวัดหนองจอก เนื่องจากท่านสรงน้ำปีละครั้งเดียวเท่านั้น นั่นก็คือในงานสรงน้ำนั่นเอง และจะอนุญาตให้ลูกศิษย์ใช้แปรงทองเหลืองขัดทำความสะอาดตัวท่าน แต่แปรงทองเหลืองที่แสนคมก็หาได้ระคายผิวหนังของหลวงพ่อแม้เพียงสักนิด

    หลวงพ่อยิดท่านเกิดเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน  พ.ศ.2476 ขึ้น 11 ค่ำเดือน 7 ปีชวด ทีนามเดิมว่า ยิด ศรีดอกบวบ บิดาชื่อ แก้ว มารดาชื่อพร้อย เมื่ออายุ 6 ขวบ บิดา มารดา ได้นำไปฝากให้เป็นลูกศิษย์ของพระอาจารย์หวล วัดนาพรม (มีศักดิ์เป็นน้า) ครั้นอายุได้ 9 ขวบท่านก็ได้บวชเป็นสามเณรโดยมีพระอธิการหวลเป็นพระอุึปัชฌาย์ได้ศึกษาอักขระเลขยันต์ ฝึกปฏิบัติสมาธิ ร่ำเรียนด้านวิชาอาคมสักยันต์ และศึกษาพระธรรมวินัย ออกธุดงค์วัตรตั้งแต่ยังเป็นสามเณร เมื่ออายุได้ 20 ปี ก็ได้อุปสมบทตามประเพณีโดยมีหลวงพ่ออินทร์ วัดยาง เป็นพระอุปัชฌาย์พระอธิการหวล เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า "จันทสุวัณโณ" หมายความว่า "ผู้มีวรรณะดุจพระจันทร์"

    ท่านได้ฝากตัวเป็นศิษย์กับหลวงพ่อศุข วัดโตนดหลวง  เพื่อศึกษาด้านวิชาอาคมและยังได้ออกธุดงค์ศึกษากรรมฐานหายเข้าป่าหลายปีจนได้ทราบข่าวการป่วยของบิดา ท่านจึงลาสิกขาออกมาดูแลบิดา - มารดา ซึ่งแก่ชรามาก และได้แต่งงานทีครอบครัว ส่วนบรรดาลูกศิษย์เก่าๆ ที่ได้จากการสักจากหลวงพ่อ พอรู้ข่าวก็ได้มาสักกันเพิ่มขึ้นจนท่านมีชื่อเสยงโดงดัง แต่มีบางคนที่ได้รับการสักยันต์จากหลวงพ่อแล้วกลับประพฤติตนเป็นอันธพาล จนทางตำรวจท้องที่ต้องขอร้องให้อาจารย์ยิดให้เลือกเฟ้นสักยันต์ให้แต่เฉพาะคนที่ประพฤติรัวดีเท่านนั้น
    
       จนกระทั่งปี พ.ศ.2518  จึงได้อุปสมบทอีกครั้งที่วัดเกาะหลัก ซึ่งขณะนั้นท่านอายุ 51 ปี เมื่ออุปสมบทแล้วก็เดินทางไปจำพรรษาเป็นพระลูกวัดที่ วัดทุ่งน้อย อ.กุยบุรี ท่านได้พบกับผู้ใจบุญ ยกพื้นที่ดินว่างเปล่าพื้นที่ 21 ไร่ 2 งาน ให้โดยปรารถนาให้ท่านสร้างวัดขึ้น ที่ดินผืนนี้เต็มไปด้วย ป่าไผ่ และดงหนาม ท่านก็พัฒนาของท่านไปเรื่อยๆ จน กระทั่งบรรดาลูกศิษย์ลูกหารู้ข่าวต่างก็ได้มาร่วมกันสร้าง "สำนักสงฆ์พุทธไตรรัตน์" ก่อนจะขออนุญาติสร้างเป็นวัดเมื่อปี พ.ศ.2527  ตั้งชื่อว่า วัดหนองจอก ต่อมาในปี พ.ศ.2535 สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช ทรงประทานพัดยศแก่ท่านเป็น "พระครูนิยุตธรรมสันทร"  หลวงพ่อยิดมรณภาพเมื่อฝันที่ 31 กรกฏาคม 2538 สิริอายุ 71 ปี 30 พรรษา

    หลวงพ่อยิดนั้นได้ชื่อว่าเป็นพระนักพัฒนารูปหนึ่ง ท่านสร้างสรรค์พัฒนาให้วัดหนองจอกเป็นวัดที่สมบรูณ์มีถาวรวัตถุทางศาสนาครบถ้วนอีกทั้งท่านยังพัฒนาการศึกษาเยาวชนอย่างเต็มที่สนับสนุนด้านทุนการศึกษษ ทุนอาหารกลางวัน รวมทั้งร่วม่สร้างสาธารณประโยชน์แก่สถานที่ราชการและหน่วยราชการ มากมาย  

    ท่านทีก๗นิมนต์ในการปลุกเสกพระเครื่องรางของขลังทั่วประเทศจนแทบไม่มีเวลาพักผ่อน ในวันเสาร์ 5 บางครั้งท่านต้องไปปลุกเสกถึง 9 วัดกันเลยทีเดียว หากท่านอยู่ที่วัดบางวันแทบไม่ไดุ้ลุกไปไหนเลย นอกจากฉันอาหารเพลเท่านนั้น ยิ่งเรื่องการจาวัตถุมงคลด้วยแล้วบางวันถึงขนาดไม่ได้ฉันข้าวก็มี แม้แต่ยามอาพาธท่านก็ยังแสดงความอดทน ออกมาต้อนรับญาติโยมเหมือนไม่เป็นอะไรเลย

   หลวงพ่อท่านมักจะพูดกับลูกศิษย์เสมอๆ ว่าการที่จะปลุกเสกวัตถุมงคลให้ขลังนั้นจะต้องมีสมาธิและสัจจะ โดยเฉพาะสัจจะนี่เป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะฉะนั้นหากใครนำวัตถุมงคลของท่านไปบูชา จะต้องเป็นผู้ที่มีสัจจะ้ด้วย วัตถุมงคลนั้นจึงจะมีความขลังและศักดิ์สิทธิ

   วัตถุมงคลของหลวงพ่อยิดที่ขึ้นชื่อได้แก่ "ปลัดขิก" เคยมีคนเล่าว่าสร้างปฏิหาริย์บินได้ "ปลัดขิก" เป็นที่นิยมกว้างขวางในหมู่นักเลงพระทั่วไป ลูกศิษย์ ลูกหาิเพราะต่างก็เชื่อมั่นในพุทธคุณปัจจุบัน แม้หลวงพ่อท่านได้ละสังขารไปแล้ว แต่วัตถุมงคลของหลวงพ่อก็ยังคงความศักดิ์สิทธิ์ เล่นหาลูชากันในวงกว้าง เชื่อกันว่าใครมี "เหรียญนั่งพาน หลวงพ่อยิด" ติดตัวแล้วจะดีเด่นในด้านโชคลาภ เมตตามหานิยม และแคล้วคลาดนิรันตราย ปัจจุบันวัตถุมงคลของหลวงพ่อยิดได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ราคายังไม่แรงงมาก แค่หลักร้อยถึงหลักพันต้นๆ เท่านั้นเอง





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น